ข่าวฟุตบอลล่าสุดฟุตบอล วาไรตี้

เจาะจุด! ปัญหาของ “เชลซี” อยู่ที่ตรงไหน ?

เจาะจุด! ปัญหาของ “เชล ซี” อยู่ที่ตรงไหน ?

ยังคงเป็นประเด็นให้พูดถึงแบบซ้ำๆ เดิมๆ แทบทุกสัปดาห์สำหรับสถานการณ์ของ เชลซี ที่ ณ ตอนนี้ร่วงลงไปสู่ครึ่งล่างของตารางคะแนนพรีเมียร์ลีกไปแล้วเป็นที่เรียบร้อย

ผู้ตัดสินตุรกี

จากผลงานที่เหมือนจะดีขึ้นจากการเอาชนะ ท็อตแน่ม ฮ็อทสเปอร์ หรือเกมที่สามารถฮึดจนไล่ตามตีเสมอ แมนเชสเตอร์ ซิตี้ ทว่ามันเหมือนภาพลวงตาที่หลอกเหล่าแฟนบอลว่าทีมกำลังดีขึ้น แต่กลายเป็นย่ำเดินอยู่กับที่เหมือนเดิม

ว่าแล้ว ขอบสนาม วันนี้จะพาไปวิเคราะห์เจาะกันอีกครั้งว่าจนถึงตรงนี้ทัพ “สิงห์บลูส์” มีปัญหาอะไรที่ฉุดรั้งไม่ให้พวกเขาพัฒนาต่อยอดไปข้างหน้า

มาตรฐานที่หาไม่เจอ

ประเด็นแรกที่อยากจะพูดถึงเลยคือเรื่องของมาตรฐานภายในทีมที่ไม่สามารถจัดแจง และคงระดับความยอดเยี่ยมของตัวเองเอาไว้ได้ แน่นอนว่ามันคือหนึ่งในคุณสมบัติของทีมใหญ่ ถ้าหากคุณอยากจะประสบความสำเร็จควรที่จะเซตมาตรฐานที่สูง และความคงเส้นคงวาเอาไว้ให้ได้

ทว่ากับ เชล ซี ในยุคปัจจุบันยากนักที่จะถามหามาตรฐาน เพราะนับตั้งแต่รูดม่านเปิดฤดูกาลนี้พวกเขาไม่เคยมีสิ่งนี้อยู่เลย ออกอาการ 3 วัน 4 วันไข้มาตลอด ยกตัวอย่างในแค่ในศึกพรีเมียร์ลีก 5 เกมหลังสุด ที่สะกดคำว่าชนะเพียงเกมเดียวเท่านั้น

จากที่ตามฮึดไล่ตามตีเสมอ แมนฯ ซิตี้ 4-4 พร้อมเสียงยกย่องว่านี่คือเลือดนักสู้ของนักเตะ เชลซี วิ่งไล่บดขยี้ โดนนำไปก่อนก็ไม่ถอดใจ แต่ทว่าหลังจากวันนั้นพวกเขาไปแพ้แบบหมดรูปต่อ นิวคาสเซิ่ล 4-1 ก่อนคั่นกลางเบียดเอาชนะ ไบรท์ตัน 3-2 และมาสะดุดแพ้ต่อเนื่องต่อ แมนยูฯ และ เอฟเวอร์ตัน ในรูปแบบที่แฟนบอลบ่นกันระงม

ฉะนั้นนี่จึงเป็นเหมือนปัญหาใหญ่ที่พวกเขายังแก้กันไม่หาย ทั้งเรื่องของมาตรฐานที่ดีในการคงสภาพเอาไว้ หรือสามารถจัดการกับทีมที่คุณต่ำกว่า และลงเล่นด้วยความกระหายเหมือนเกมที่ลงไปดวลกับเหล่าทีมหัวตาราง

เจาะจุด! ปัญหาของ "เชลซี" อยู่ที่ตรงไหน ?

นักเตะขาเข้า

ต่อมาคงต้องย้อนกลับไปเมื่อช่วงตลาดซัมเมอร์ที่ผ่านมากับการเลือกสรรนักเตะเข้ามาสู่ทีม แน่นอนนี่ เชล ซี คือทีมที่ใช้เงินเสริมทัพมากที่สุดเหนือทุกทีมในเกาะอังกฤษ แลกกับนักเตะจำนวนมากที่หวังจะเข้ามายกระดับทีม

ทว่ากับสถานการณ์ปัจจุบันต้องยอมรับว่ามันช่างแตกต่างจากความคาดหวังจากแฟนบอล ซึ่งถ้าเจาะลึกลงไปจะเห็นว่าบอร์ดบริหารจัดการทุ่มซื้อนักเตะที่บางรายไม่ใช่เกรด A หรือคนที่มีคุณภาพในการยกระดับทีมเข้ามาได้เลย

ยกตัวอย่างในเคสของ มอยเซส ไกเซโด้ ที่ไปสอยมาจาก ไบรท์ตัน ด้วยค่าตัว 100 ล้านปอนด์ แต่กับผลงานตอนนี้มิดฟิลด์รายนี้สอบตกแบบไม่ได้ลุ้น หรือในเคสของ โรเมโอ ลาเวีย ที่เสียเงินไปมากกว่า 50 ล้านปอนด์แต่ยังไม่ได้ใช้ประโยชน์จากดาวเตะรายนี้เลย

หรือแม้แต่ในตำแหน่งผู้รักษาประตูที่ปล่อย เกปา อาร์ริซาบาลาก้า ออกไป แต่เลือกที่จะทดแทนด้วยประตูมือ 2 ของ ไบรท์ตัน อย่าง โรเบิร์ต ซานโชซ มาทดแทน ซึ่งจนถึงตอนนี้แฟนบอลยังไม่เห็นถึงความคุ้มค่าในการดึงตัวเข้ามา โอเคแหละครับว่ามีช็อตเซฟให้ได้เห็น แต่ความผิดพลาด หรือปฏิกิริยาในบางช็อตควรช่วยทีมได้มากกว่านี้

ต่อเนื่องจากการซื้อนักเตะมากจำนวน แต่กระนั้นเมื่อมองไปที่ขุมกำลังเชิงลึกจะเห็นว่าคุณภาพมันไม่ได้สอดคล้องไปด้วยกันได้เลย ประเด็นอาการบาดเจ็บเข้าใจว่าเป็นสิ่งที่ต้องหยิบยกมาพูดถึง แต่ซีซั่นนี้หลายๆ ทีมก็โดนเหตุการณ์แบบนี้เล่นงานด้วยเช่นกัน ยกตัวอย่างคือ นิวคาสเซิ่ล แต่พวกเขาก็ประคองตัว และรั้งอยู่ครึ่งบนของตารางได้

ย้อนกลับมามองที่ เชล ซี อย่างในเกมล่าสุดที่พบ เอฟเวอร์ตัน ตัวสำรองที่ให้ โปเช็ตติโน่ เลือกใช้มันกลับไม่ได้หลากหลายมากนัก อย่างตัวรุกที่เป็นแข้งชุดใหญ่เต็มตัวก็ 2 ราย อีกคนก็เป็นดาวรุ่งอย่าง อเล็กซ์ มาตอส ในวัย 19 ปี

ฉะนั้นมันเลยสามารถเชื่อมต่อไปยังการคว้านักเตะมาร่วมทีมว่าในบางครั้งสโมสรไปซื้อนักเตะในพื้นที่เดียวกันมากจนเกินไป หรือซื้อนักเตะที่ไม่สามารถสร้างความแตกต่างให้กับทีมได้ มันเลยกลายเป็นปัญหาที่เริ่มส่งผลมากขึ้นเรื่อยๆ

แต่กระนั้นถ้าจะให้ความเป็นธรรมกับ โปเช็ตติโน่ ก็คงต้องรอนักเตะหายเจ็บแบบพร้อมหน้ากัน และมาดูว่า “พอช” จะพาทีมยกระดับได้มากขนาดไหน แต่ก็อย่าลืมว่าสถานการณ์นักเตะเจ็บแบบนี้ก็เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดคุณภาพของโค้ชได้เหมือนกัน

เด็กๆ แบกไม่ไหว

อย่างที่เรารู้กันว่า ท็อดด์ โบห์ลี่ ต้องการสร้างทีมแห่งอนาคตให้กับ เชล ซี ด้วยการเลือกนักเตะอนาคตน้อย ที่สามารถคาดหวังถึงอนาคตได้เข้ามาสู่ แน่นอนว่าในแง่คือการวางโครงสร้างในระยะยาวเพื่อการออกดอกออกผล

ทว่าในอีกมุมหนึ่งเหมือนเป็นการทำร้ายตัวเองในปัจจุบัน ในรูปแบบที่ไม่อาจรู้ได้ว่าอนาคตจะประสบความสำเร็จหรือไม่ เพราะในตอนนี้เหล่าดาวรุ่ง หรือแข้งอายุน้อยอ่อนประสบการณ์เริ่มส่งผลกระทบต่อทีมในภาพรวม

อย่างในแผนกเกมรับในวันที่ ติอาโก้ ซิลวา เริ่มโรยรา คนที่จะก้าวขึ้นมาทดแทนในตอนนี้เรายังไม่เห็นภาพที่ชัดเจนเลยว่า เบอนัว บาเดียชิล, อักเซล ดิซาซี่ หรือ ลีวาย โควิลล์ ใครจะขึ้นมาเป็นเสาหลักที่แฟนบอลสามารถคาดหวังได้เป็นคนต่อไป

หรือแม้แต่แดนหน้า ณ ตอนนี้อัตราความอันตรายของ เชลซี ไม่ได้สร้างความปั่นป่วนให้คู่แข่งมากเท่าไหร่นัก กองหน้าตัวเป้าที่มีไม่ได้ช่วยให้คู่แข่งต้องหวาดกลัวเมื่อต้องเผชิญ

ฉะนั้นแล้วอย่างที่กล่าวไปการวางรากฐานสู่อนาคตเป็นเรื่องที่ดี แต่เรื่องของปัจจุบันก็สำคัญไม่แพ้กัน

เชลซี

อนาคตของ โปเช็ตติโน่

ปิดท้ายกันที่ประเด็นของ โปเช็ตติโน่ นายใหญ่ของทีม ที่สถานการณ์ ณ ปัจจุบันก็ไม่ได้เป็นตัวเต็งเบอร์ต้นๆ ที่จะตกงาน ไม่ได้อยู่ลิสต์ท็อป 5 ของอัตราต่อ-รอง ที่จะถูกปลดออกจากทีมตำแหน่ง

ส่วนทางฝั่งแฟนบอลเชื่อว่าคงมีแบ่งออกเป็น 2 ฝั่ง ข้างหนึ่งก็อยากให้คุมทีมต่อไป มองไปถึงการวางรากฐาน และให้เวลาโค้ชได้ปรับจูนทีมต่อไป ส่วนอีกฟากก็ต้องการความเปลี่ยนแปลงเพื่อพาทีมยกระดับได้มากกว่านี้

ทว่าถ้าพิจารณาสถานการณ์ขาเก้าอี้ของ โปเช็ตติโน่ ในตอนนี้น่าจะยังปลอดภัย อย่างน้อยๆ ก็คงจะถึงช่วงปีใหม่ หรืออาจลากยาวได้โอกาสเสริมทัพเพิ่มขึ้นอีกในช่วงเดือนมกราคมนี้

แน่นอนว่า เชลซี คือ 1 ในทีมใหญ่ของอังกฤษ หรือในยุโรป แต่กับสถานการณ์ปัจจุบันต้องยอมรับว่าไม่ใช่ “สิงห์บลูส์” ที่เราคุ้นเคย จากทีมที่เดินเกมได้อย่างยอดเยี่ยมทั้งการซื้อตัว หรือเลือกสรรกุนซือ

ต่อจากนี้ต้องมาติดตามกันต่อว่า เชลซี จะหาจุดเปลี่ยนที่พาตัวเองกลับมาสู่มาตรฐานเดิมงเมื่อไหร่ หรือกลับมากลายเป็นทีมที่ประสบความสำเร็จกวาดโทรฟี่แชมป์ตอนไหน

การบริหารงาน และเดินหน้าต่อจากนี้ความชัดเจนคงจะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

ผู้ตัดสินตุรกี

ติดตามข่าวสารเพิ่มเติมของ ขอบสนาม

logoline
ผู้ตัดสินตุรกี